GSM (Global System for Mobile Communication) หลัง จากระบือลือลั่นในไทยว่า เป็นระบบที่ดีเหลือหลายแรง ชัดทั่วไทยแถมพรีเซ็นเตอร์ยัง น่ารักอีกต่าง หาก แท้จริง แล้วจะมีสักกี่คนที่ทราบความจริง ว่า GSM เป็นชื่อของ ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ได้รับความนิยมสูง สุดในยุโรปและบาง ส่วนในเอเชียไม่ได้เป็นชื่อทาง การค้าแต่อย่าง ใด แต่เมื่อกลุ่มชินวัตรนำเอาชื่อ GSM มาเล่นทาง การตลาดแล้ว กลุ่ม TAC และโอเปอเรเตอร์ผู้ ให้บริการมือถือที่เหลือจึง ต้อง ใช้ชื่อทาง การค้าอื่น ๆ เช่น World Phone และ Hallo 1800 ทั้ง ที่ก็ล้วนแต่เป็นระบบ GSM ด้วยกันทั้ง สิ้น
ในความจริงแล้ว GSM ไม่ได้ใช้ แถบคลื่นสัญญาณเต็มประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับ CDMA แต่ GSM ก็เป็นระบบที่ได้รับความนิยมกว้างขวางไปทั่วโลก ความเร็วในการส่งข้อมูลด้วย GSM ไม่เกิน 9600 Kbps เท่านั้นซึ่งก็คือความเร็วของ WAP ในปัจจุบันนั่นเอง
FDMA (Frequency Division Multiple Access) จริง ๆ แล้ว FDMA ไม่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีหรือเครือข่ายที่ดีเยี่ยมหรือทันสมัย แต่ที่ยกมาอธิบายก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ที่ชัดเจนมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ CDMA และ TDMA การจัดเครือข่ายด้วยระบบ FDMA นั้นก็คือการจัดสรรความถี่ แต่ละค่าให้กับลูกข่ายแต่ละตัวในการติดต่อ ดังนั้นมันจึงไม่มีประสิทธิภาพ ในการสื่อสารเพราะช่องสัญญาณ หนึ่งช่องไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้หลาย ๆ ตัวพร้อมกัน FDMA เป็นรูปแบบเทคโนโลยีการสื่อสาร ไร้สายในยุคแรก ๆ ก็ว่าได้ครับแม้ว่าจะมีการพัฒนาขึ้นมา แต่ต่อไปคงไม่ใช่ฐานของวิวัฒนาการของ เครือข่ายอีกต่อไป
CDMA (Code Division Multiple Access) นี่คือระบบโทรศัพท์ที่แบ่ง การส่ง ข้อความโดยการแบ่ง ข้อความที่ส่ง นำไปเข้ารหัสแยกกันเป็นส่วน ๆ ทำให้สามารถส่ง ข้อความหลายข้อความไปบนช่อง สัญ ญ าณเดียวกันได้โดยจัดสรรช่อง ความถี่ให้ใช้ง านได้เต็มประสิทธิภาพ CDMA มีความสำคัญ ในฐานะพื้นฐานสำหรับการพัฒนาของ 3G เพราะเทคโนโลยี 3G ทั้ง สอง ตัวนั้นจะใช้ฐาน CDMA ทั้ง สิ้น โดยความเร็วในปัจจุบันของ CDMA ในการส่ง ข้อมูลอยู่ที่ 14.4 Kbps เท่ากับโมเด็มอนาล็อก สำหรับสายโทรศัพท์บ้านในช่วง 4 ปีที่แล้ว
บริษัท Qualcomm Inc. คือเจ้าของเทคโนโลยี CDMA ยังเป็นเจ้าตลาด ของระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอเมริกา คือมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์และตลาดส่วนใหญ่ ในเกาหลีใต้และบางส่วน ในเอเชียแต่ในยุโรป นั้นเป็นตลาดของ GSM สำหรับในประเทศไทยนั้น CDMA เป็นของบริษัทตะวัน โมบายเทเลคอม ซึ่งก็ไม่ได้แจ้งเกิดสักเท่าไหร่จะดีกว่า WCS นิดเดียวตรงที่ได้ทำ ตลาดจริงแต่ก็ทำยอดได้ไม่กี่เครื่อง ล่าสุดได้มีทุน ฮ่องกงอย่างฮัทชิสันวัมเปาเข้ามาถือหุ้น และต่อรองเงื่อนไขสัญญากับทาง กสท. ใหม่แล้วคาดว่าถ้าฮัทชิสันวัม เปาเอาจริงก็คงต้องรอดูช่วงที่จะออก 3 G หรือ 2.5 G มากกว่าเพราะอย่างน้อยเทคโนโลยี CDMA นั้นก็คงมีศักยภาพในการ แข่งขันในช่วงนั้นแน่นอน
TDMA (Time Division Multiple Access) ใช้วิธีการบริหารช่องสัญญาณ ด้วยการแบ่งการส่งสัญญาณ ให้กับแต่ละลูกข่ายเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ระบบนี้มีใช้กันอยู่ในอเมริกาเหนือ และใต้แม้ว่าหลักการในการทำงานจะดู ไม่ได้เลิศหรูอะไรแต่สามารถให้ความเร็ว ในการส่งข้อมูลได้สูงถึง 19.2 Kbps และหากมีการอัพเกรดขึ้น ไปอาจทำได้ถึง 64 Kbps ทีเดียว
GPRS (General Packet Radio Services) เทคโนโลยี GPRS คาดว่าจะได้รับความนิยมสูง ถ้าหากประเทศหรือบริษัทผู้วาง เครือข่ายไม่รอรับ 3G จนไม่ใส่ใจ 2.5 G เพราะซอฟต์แวร์ general packet radio services สามารถติดตั้งในเครือข่าย GSM ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้เลย GPRS จะให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย ไร้สายที่รวดเร็วยิ่งขึ้นและการเชื่อม ต่อต่อเนื่องแบบ Continuous อย่างแท้จริง (ต่อเชื่อมอยู่ ตลอดเวลาทำให้เสถียรภาพ ในการส่งข้อมูลสูง) อย่างไรก็ตาม GPRS คงไม่ถึงกับทำให้เครือข่าย มีความสามารถสูงขึ้นมากมากนัก และความเร็วใน การรับส่งข้อมูลคงจะไม่เกิน 100 Kbps
EDGE (Enhanced Data rates for Global Evolution) เทคโนโลยี EDGE ทำให้ความสามารถในการรับส่งข้อมูลของทั้งระบบ GSM และ TDMA สูงขึ้นจนถึงระดับกว่า 300 Kbps แต่จะว่าไปแล้วมันก็ยังไม่ได้ให้มูลค่า เพิ่มอะไรมากมายนักดังนั้นสิ่ง ที่เราต้องคอยดูกันต่อไปก็คือ 2.5 G จะได้รับความสนใจมากน้อยเพียงใด หรือบริษัทสื่อสารจะรอให้ 3 G ใช้งานได้จริงและมีต้นทุนดำเนินการ ในระดับที่ยอมรับได้มากกว่าที่จะวางระบบ 2.5 G เพื่อรอการมาของ 3 G
CDMA 2000 อย่างที่บอกว่า CDMA เป็นรากฐานการวิวัฒนาการมาเป็น 3G ดังนั้น CDMA 2000 นี้ก็พัฒนามาจาก CDMA นั่นเอง ทั้งนี้ Qualcomm เจ้าของเทคโนโลยี CDMA เป็นคนพัฒนา CDMA 2000 ขึ้นมาโดยสามารถนำ มาต่อยอดบนเครือข่าย CDMA เดิมได้เลย ความเร็วในการรับส่งข้อมูลจะอยู่ในราว 100 Kbps โดยในขั้นต่อไป คงให้ความเร็วได้สูงถึง 300 Kbps
WCDMA - Wideband CDMA แม้ว่า Qualcomm จะเป็นผู้ให้กำเนิด CDMA แต่ปรากฏว่าค่าย GSM เดิมกลับพัฒนา 3G บนรากฐานของ CDMA เป็นสำคัญ นั่นคือที่มาของ WCDMA ทั้งนี้บริษัทที่ร่วมกันพัฒนาในที่นี้ได้แก่ NTT Docomo แห่งญี่ปุ่น (เจ้าของ iMode อันลือลั่น), Nokia จากฟินแลนด์, Ericsson จากสวีเดน, Telefon LM และ ฯลฯ ความเร็วของระบบ นี้คาดว่าจะทำได้ในอัตรา 300 Kbps เช่นกัน
UMTS (Universal Mobile Telecommunications Systems) จริง ๆ แล้วมันก็คือตัวเดียวกับ WCDMA นั่นเองเพียงแต่เป็นชื่อ ที่ใช้เรียกกันในยุโรปเหมือน ๆ กับมาตรฐานของมือถือ ในยุคใหม่ซึ่งมาแทนที่ GSM นั่นเอง |