ชนิดของลำโพง
ในอดีตมาตราฐานสำหรับลำโพงที่จะใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ จะต้องมีก็คือ การที่มีคุณสมบัติในการป้องการสนามแม่เหล็ก (Magnetic Shield) เพื่อที่จะป้องกันสนามแม่เหล็กจากลำโพงไปรบกวนการทำงานของจอมอนิเตอร์ ซึ่งอาจทำให้การแสดงผลของ มอนิเตอร์ผิดพลาดได้ และอาจทำให้มอนิเตอร์เสียหายได้ ส่วนทางด้านคุณภาพเสียง นั้นยังไม่เป็นที่สนใจมากนัก เนื่องจากตอนนั้น เสียงที่ต้องการจากคอมพิวเตอร์ มักจะมาจากการเล่นเกมส์ ที่ในขณะนั้นคุณภาพเสียงที่ออกมา ยังไม่สูงมากนัก และการด์เสียงในขณะนั้น ก็ยังมีราคาสูงอยู่ แต่คุณภาพไม่ได้สูงตามไปด้วย ลำโพงสมัยก่อนจะมีเพียง แบบ 2 ลำโพงเท่านั้น โดยจะมีอยู่ 2 ชนิดก็คือ แบบที่มีวงจรขยายเสียงในตัว และแบบที่ไม่มีวงจรขยายเสียง
สำหรับลำโพงที่ไม่วงจรขยายเสียงในตัวนั้น ขนาดของกรวยลำโพงที่ใช้ ภายในตัวลำโพงจะมีขนาดเล็กประมาณ 2 นิ้ว ลำโพงชนิดนนี้จะใช้ความสามารถของการ์ดเสียง ในการขยายเสียงออกลำโพง การใช้ลำโพงประเภทน ี้จึงต้องการการ์ดเสียง ที่มีวงจรขยายเสียงมาด้วย ไม่เช่นนั้นเสียงที่ออกมา จะไม่ดังเพียงพอต่อการรับฟังได้ คุณภาพเสียงที่ออกมาจะขึ้นอยู่กับการ์ดเสียงเป็นหลัก ลำโพงชนิดนี้จะไม่มีปุ่มปรับเสียงใดๆ บนตัวลำโพง โดยจะต้องปรับจากซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงานของการ์ดเสียงบนวินโดว์โดยตรง
ลำโพงอีกชนิดนึงก็คือลำโพงที่มีวงจรขยายเสียงภายในตัว บนตัวลำโพงก็จะปุ่มสำหรับปรับเสียงต่างๆ เช่น ปุ่ม Volume สำหรับปรับความดังของเสียง ปุ่ม Treble สำหรับปรับระดับความดังของเสียงแหลม ปุ่ม Base สำหรับปรับระดับความดังของเสียงทุ้ม
การสร้างเสียงที่ดีขึ้นจากลำโพงตัวเดิม
ปัจจุบันเรื่องของเสียงเป็นส่วนที่ได้รับควมสนใจมาก หลายท่านคงสละเงินเพื่อซื้อลำโพงที่ดีที่มีคุณภาพ เพื่อแลกกับความสบายหู และความสะใจในอารมณ์ แต่อาจจะลืมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับ Sound Card
ส่วนมากแล้ว ทางร้านจะเสียบสายสัญญาณเสียงออกมาทาง Speaker Out เพราะเสียงที่ออกมาจะดังมากเกินไปทำให้เสียงแตก และไม่สามารถปรับความดัง-ค่อยอย่างละเอียดได้ ซึ่งจะเป็นการลดประสิทธิภาพของเสียง สำหรับลำโพงที่มีภาคขยายอยู่ในตัวเอง (ส่วนใหญ่แล้วลำโพงที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าจะมีภาคขยายอยู่ในตัวเอง)
วิธีแก้ไข
ลองนำสายสัญญาณเสียงเปลี่ยนไปเสียบที่ช่อง Line Out ซึ่งสัญญาณที่ออกมาจะไม่ถูกขยายโดย Sound Card สำหรับบางเครื่องที่ไม่มีช่อง Line Out หรือมีแต่ Audio Out ถ้าเป็นเช่นนี้ ให้ลองเปิดเครื่องแล้วดูที่ Sound Card จะเห็น Jumper switch ซึ่งเป็นการเลือกของ Audio Out ว่าจะให้สัญญาณออกที่ speaker หรือ Line Out โดยสามารถอ่านรายละเอียดจากคู่มือ Sound Card ที่แนบมาพร้อมกับตอนซื้อ เมื่อเปลี่ยนได้แล้วก็จะทำให้เสียงที่ออกมาไม่ดังหนวกหูหรือเสียงแตก แถมยังได้เสียงที่ละเอียดขึ้นอีกด้วย
หวังว่าเทคนิคนี้คงทำให้สามารถรับฟังเสียงจากคอมพิวเตอร์ของคุณที่สบายหูและน่าฟังขึ้น |