ปัจจุบันการนำเสนอและเผยแพร่ความรู้ที่ได้ประสิทธิภาพ
รวดเร็ว กว้างไกลมากที่สุด คงจะหนีไม่พ้นการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้มีการนำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีเว็บร่วมพัฒนาองค์ความรู้ต่างๆ
ทุกสาขาในลักษณะของเอกสารเว็บ ด้วยภาษา HTML, XML แต่อย่างไรก็ตามเนื้อหาความรู้ตามกลุ่มสาระวิชา
ที่สอนในชั้นเรียนของประเทศไทย พบว่ามีน้อยกว่าเนื้อหาด้านอื่นๆ
ซึ่งมีผลจากกลุ่มครู อาจารย์ซึ่งเป็นเจ้าของเนื้อหาวิชานั้นๆ
ไม่มีความรู้ในการพัฒนาเนื้อหาดิจิทัล ประกอบกับภาระงานที่มีมาก
ทำให้ไม่มีเวลามาพัฒนาเนื้อหาดิจิทัลได้ทันต่อความต้องการใช้งานของนักเรียน
การพัฒนาเครื่องมือสร้างเนื้อหาดิจิทัล นับเป็นประเด็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งในการรณรงค์ส่งเสริมให้ครู
อาจารย์พัฒนาเนื้อหาดิจิทัล เข้าสู่ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้เครื่องมือดังกล่าวจะต้องมีลักษณะเด่น คือ
- เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย
ทำงานได้ทั้งระบบ Stand alone และ Online
- เป็นเครื่องมือที่ไม่ต้องอาศัยซอฟต์แวร์เฉพาะ
หรือต้องจัดซื้อหาในราคาแพง
- เป็นเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้ครู
อาจารย์ นำเนื้อหาจากสื่อที่มีอยู่เดิม มาแปลงเป็นเนื้อหาดิจิทัลได้อย่างสะดวก
รวดเร็ว และใช้งานได้ง่าย
ปัจจุบันโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
(SchoolNet) ได้พัฒนาเครื่องมือสร้างเนื้อหาดิจิทัลออนไลน์ บริการให้กับครู
อาจารย์ ภายใต้ชื่อ Digital Library Toolkit ซึ่งเปิดบริการออนไลน์ผ่านเว็บไซต์
http://www.school.net.th/library
จากการนำเครื่องมือดังกล่าวไปอบรมให้กับครูต้นแบบ
ที่ได้รับการคัดเลือกจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ
ตลอดจนโครงการเผยแพร่ของ SchoolNet เองหลายครั้ง พบว่ายังมีปัญหาต่อการใช้งาน
ซึ่งผลให้ครูอาจารย์ที่ได้รับการอบรม นำเนื้อหาวิชาความรู้แปลงเป็น
เนื้อหาดิจิทัลน้อยอยู่ เนื่องจากสาเหตุหลักคือ
- เครื่องมือดังกล่าวเป็นระบบออนไลน์
ครู อาจารย์เมื่อกลับไปบ้าน หรือโรงเรียนของตนเอง ไม่สามารถเข้าสู่อินเทอร์เน็ตได้
จึงไม่สามารถสร้างผลงานได้ต่อเนื่อง
- เครื่องมือดังกล่าวไม่สนับสนุน
การสร้างเอกสาร ในรายวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ทำให้ขาดเนื้อหาในส่วนนี้
โดยเฉพาะการสร้างสูตร สมการต่างๆ
นอกจากเครื่องมือ
Digital Library ของโครงการ SchoolNet บริษัทออราเคิล ก็ได้พัฒนาเครื่องมือลักษณะเดียวกันโดยเรียกได้จากเว็บไซต์
http://www.think.com
โดยโรงเรียนที่นำเครื่องมือของออราเคิลไปใช้ในประเทศไทย
ได้แก่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แต่จากการทดลองใช้งานพบว่าปัญหาหลักของเครื่องมือนี้คือ
ความเร็ว เนื่องจากเครื่องบริการเว็บ ตั้งอยู่ในต่างประเทศ และมีโรงเรียนใช้บริการจำนวนมาก
จากหลายๆ ประเทศ ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้งานได้จริงในเวลาเรียน
การพัฒนาเครื่องมือพัฒนาเนื้อหาดิจิทัล
จึงเป็นอีกประเด็นหนึ่ง ที่ควรส่งเสริมให้นักพัฒนาโปรแกรม ในประเทศไทย
ได้ร่วมกันพัฒนา เพื่อสร้างคลังความรู้แห่งชาติ ด้วยเครื่องมือที่พัฒนาด้วยคนไทย
|