เหรียญทวีธาภิเศก
The
Dvidhabhisek Medal
ใช้อักษรย่อ
ท.ศ. เป็นเหรียญราชอิสริยาภรณ์ ที่พระราชทานเป็นที่ระลึก สำหรับพระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์
ข้าราชการ ตลอดจนมหาดเล็กทั่วไป ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน แล้วแต่จะทรงพระราชดำริเห็นสมควร
ความปรากฏในพระราชบัญญัติเหรียญทวีธาภิเศก รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๒ (พ.ศ.๒๔๔๖)
ตอนหนึ่งว่า ... (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) "ทรงพระราชดำริว่า
ในการสมภาคาภิเศก แลทวีธาภิเศก แต่ก่อน ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญที่รฦกสำหรับสมัยมงคลพิเศษเช่นนั้นทุกครั้งมา"
...
แต่เหรียญที่ระลึกดังกล่าว หาได้เป็นเครื่องประดับสำหรับเกียรติยศไม่
ครั้งนี้เปนสมัยที่ได้เสด็จดำรงสิริราชสมบัติยืนนานกว่าพระเจ้าแผ่นดินในพระบรมราชวงษ์
ซึ่งได้ดำรง กรุงรัตนโกสินทรทุกพระองค์ และประจวบ ๒ เท่ารัชกาลซึ่งติดต่อกับประจุบันนี้
ควรที่จะให้เหรียญที่รฦกนี้เปนเครื่องประดับด้วยพิเศษกว่าเหรียญที่รฦกซึ่งได้สร้างมาแต่ครั้งก่อนๆ
...
เหรียญนี้มี
๒ ชนิด คือ เหรียญทองและเหรียญเงิน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญนี้ขึ้น เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๖ สำหรับพระราชทานทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน
เพื่อเป็นที่ระลึกในวโรกาส ที่ได้เสด็จดำรงสิริราชสมบัติสืบบรมสันตติวงศ์
นับตั้งแต่วัน พฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง สัมฤทธิศก จุลศักราช
๑๒๓๐ (พ.ศ.๒๔๑๑) จนถึงวันที่ ๓ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๒ (พ.ศ.๒๔๔๖)
อันเป็นปีที่ ๓๖ ในรัชกาล และนับได้ ๑๒๒๔๔ วัน ซึ่งเป็นเวลายืนนานกว่ารัชกาลของบูรพกษัตริย์ในพระราชวงศ์จักรี
และครบถ้วน ๒ เท่า จำนวนวันในรัชกาลของสมเด็จพระบรมชนกาธิราช พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้ ได้โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติเหรียญทวีธาภิเศกศก ๑๒๒
ขึ้นประกาศใช้ ณ วันที่ ๓ ตุลาคม ศกเดียวกัน ซึ่งเป็นวันทวีธาภิเศกดังกล่าว
เหรียญนี้มีลักษณะเป็นรูปไข่สองเหรียญซ้อนกัน
ด้านหน้า
มีรูปโล่ โล่ข้างหน้าเป็นตราจุลมงกุฎรองพาน ๒ ชั้น โล่หลัง รูปมหามงกุฎรองพานอย่างเดียวกัน
มีพระมหาสังวาลนพรัตนราชวราภรณ์ และมีใบชัยพฤกษ์รอบนอก มีพระขรรค์กับธารพระกรไขว้กันอยู่เบื้องหลัง
มีพระอุณหิศ อยู่เบื้องบนทั้ง ๒ หน้า รูปกลมรี
ด้านหลัง
กลางโล่มีรูปช้าง ๓ เศียร มีช่อพุทธรักษาล้อม ๒ ข้าง มีพระอุณหิศอยู่เบื้องบน
ภายในพระอุณหิศมีอุณาโลมอยู่เหนือโล่ มีอักษรโดยรอบว่า "ที่ระลึกรัชกาลที่
๕ เสมอ ๒ เท่า รัชกาลที่ ๔ รัตนโกสินทรศก ๑๒๒" เหมือนกัน ทั้ง
๒ หน้า
|
|
ฝ่ายใน
|
ฝ่ายหน้า
|
ห้อยกับแพรสีเดียวกับสายสะพายประถมาภรณ์มงกุฎไทย
และประถมาภรณ์ช้างเผือก ติดต่อกันอย่างละกึ่งแถบ กว้าง ๓ เซนติเมตร
สำหรับรูปลักษณ์ของเหรียญ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชดำริว่า
ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือกสยามขึ้น
และในรัชกาลของพระองค์ ทรงสร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎสยามขึ้น
เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์คู่กัน จึงควรจะใช้สายแถบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งสองผสมกันเป็นแถบเดียว
แต่ดวงตราในเหรียญให้คงตามแบบเหรียญสมภาคาภิเศก และเหรียญทวีธาภิเศก
ซึ่งได้เคยเป็นแบบมาแต่ก่อน เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระเดชพระคุณในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และเป็นที่ระลึกในมงคลสมัยทวีธาภิเศกของพระองค์สืบไป
สำหรับพระราชทานฝ่ายหน้า
ใช้ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย
สำหรับพระราชทานฝ่ายใน
แพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอ ประดับที่เสื้อหน้าบ่าซ้าย
ปัจจุบันเป็นเหรียญที่พ้นสมัยพระราชทาน
การพระราชทาน
- เหรียญทวีธาภิเศกนี้เป็นของสำหรับพระราชทาน
พระราชทานเฉพาะแก่ผู้ที่สมควรได้รับพระราชทานในรัตนโกสินทรศก ๑๒๒
(พ.ศ.๒๔๔๖) ซึ่งเป็นปีทวีธาภิเศกคราวเดียวเท่านั้น
- ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานเหรียญนี้ติดเหรียญปลอมดังผู้ที่ได้รับพระราชทาน
และห้ามมิให้ผู้ที่ได้รับพระราชทานอย่างต่ำ แก้ไขทำเหรียญอย่างสูงติด
เช่น ได้รับพระราชทานชนิดเงิน เอาไปกะไหล่ทองเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด
ถึงแม้ว่าเวลาที่ได้รับพระราชทานนั้นยศบรรดาศักดิ์ยังต่ำอยู่ จึงได้รับพระราชทานอย่างเงิน
ต่อไปถึงจะได้เลื่อนยศขึ้นอย่างไรก็ดี ก็ให้คงใช้เพียงเท่าที่ได้รับพระราชทานนั้น
เพราะเป็นเหรียญที่ระลึก เฉพาะคราวทวีธาภิเศกอย่างเดียว ไม่ใช่สำหรับพระราชทานต่อไปอีก
- เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานเหรียญนี้แก่ผู้ใด ถ้าเป็นฝ่ายหน้าให้ไปลงนามยศ นามเดิม
และ ตำแหน่งราชการในสมุดสารบบที่กระทรวงวัง ถ้าเป็นฝ่ายใน ให้ไปลงนามและตำแหน่งในสมุดสารบบที่เจ้าพนักงานฝ่ายใน
- ประกาศนียบัตรกำกับ
เหรียญทวีธาภิเศกนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสนาบดีกระทรวงวัง
ออกประกาศนียบัตรให้เป็นสำคัญ จึงจะเป็นอันนับว่า ได้รับพระราชทานแท้บริบูรณ์
จึงจะประดับเหรียญนี้ได้สืบไปในการทั้งปวง แต่ถ้ามิได้ไปลงนามและรับประกาศนียบัตรก่อนแล้วให้ประดับได้เพียงในเวลางานทวีธาภิเศกเท่านั้น
- เมื่อผู้ใดได้รับพระราชทานเหรียญทวีธาภิเศกไปแล้ว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นสิทธิ์แก่ผู้นั้นๆ ล่วงลับไปแล้ว
ไม่ต้องคืน แต่ผู้อื่นที่ได้รับต่อไป นอกจากผู้ที่ได้รับพระราชทาน
จะใช้ประดับไม่ได้ คงให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกสืบไปเท่านั้น
|