สถาบันการศึกษาที่ได้สำรวจจำนวน
614 แห่ง มี 294 สถาบัน ที่มีหลักสูตรที่เปิดสอนแบบอีจากปีที่ผ่านมา
การศึกษาแบบอีเลิร์นนิ่งเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมกว้างขวางขึ้น
หลายสถาบันการศึกษาทั่วโลก ได้นำการศึกษาแบบอีเลิร์นนิ่ง มาพัฒนาใช้กับหลักสูตรการศึกษาที่มีอยู่เดิม
สำหรับปี พ.ศ. 2547 นี้ แนวโน้มอีเลิร์นนิ่งจะเป็นอย่างไร ลองมาฟังความคิดเห็นจากสำนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญ
ที่ได้คาดการณ์ถึงแนวโน้มของอีเลิร์นนิ่งในปี พ.ศ. 2547 นี้กันดู
สำนักข่าวซีดีเน็ต (ZD Net) รายงานว่า บรรดาอาจารย์ผู้สอนจากสถาบันการศึกษาระดับสูงหลายแห่งในสหราชอาณาจักร
เทคะแนนเต็มให้กับการศึกษาแบบอีเลิร์นนิ่ง อาจารย์หลายท่านกล่าวว่า
คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตกำลังแสดงบทบาทสำคัญ ในการปรับปรุงการสอนของหลายสถาบันการศึกษาในสหราชอาณาจักร
ในการสำรวจอาจารย์ 150 ท่าน จากสถาบันการศึกษาระดับสูงในอังกฤษ
พบว่าร้อยละ 15 เชื่อว่าอีเลิร์นนิ่งช่วยส่งเสริมการศึกษาให้ดีขึ้น
ร้อยละ 94 ให้ความเห็นว่า การผสมผสานระหว่างการสอนแบบออนไลน์และการสอนแบบเดิมที่เรียนในห้องเรียนจริง
จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการสอนในห้องเรียนจริงอย่างเดียว ร้อยละ
90 กล่าวว่า จำนวนนักศึกษาที่จบการศึกษาจากการเรียนแบบอีเลิร์นนิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย
ๆ
อาจารย์ท่านหนึ่งจากมหาวิทยาลัยลีดส์ เมโทรโพลิแทน (Leeds Metropolitan
University) กล่าวว่า การเรียนแบบออนไลน์นำโอกาสใหม่ ๆ มาสู่การศึกษาระดับสูง
เพราะมีนักศึกจำนวนมากที่กำลังเรียนในหลักสูตรนอกเวลา และไม่สามารถเข้าเรียนในห้องเรียนได้ทุกวิชา
เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลา
บรรดาสถาบันการศึกษาในอังกฤษกำลังส่งเสริมให้มีจำนวนนักศึกษาที่จบการศึกษาระดับสูงเพิ่มมากขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันก็ยากที่จะควบคุมการเพิ่มจำนวนของนักศึกษาที่พักการเรียน
และนักศึกษาที่เลิกเรียนกลางคัน ถ้าอีเลิร์นนิ่งสามารถช่วยทำให้รัฐบาลบรรลุเป้าหมาย
ที่ต้องการให้วัยรุ่นจำนวนครึ่งหนึ่งของจำนวนวัยรุ่นทั้งหมดในอักฤษ
มีการศึกษาระดับสูงได้ หลายมหาวิทยาลัยอาจจะยอมเพิ่มการลงทุนในด้านคอมพิวเตอร์
เครือข่ายและสื่อการเรียนการสอนผ่านเว็บ
ลองมาดูแนวโน้มอีเลิร์นนิ่งในประเทศแถบเอเชียกันบ้าง เว็บทีดีซีเทรดดอทคอม
(www.tdctrade.com) ได้รายงานถึงโอกาสของอีเลิร์นนิ่งในฮ่องกงไว้หลายประการ
เช่น
- ประการที่หนึ่ง อีเลิร์นนิ่งกลายเป็นแนวโน้มระดับโลกในอุตสาหกรรมการศึกษา
- ประการที่สององค์กรต่าง ๆ จะจัดให้มีหลักสูตรออนไลน์
- ประการที่สาม
กระทรวงศึกษาธิการจะสนับสนุนเงินทุนในด้านไอทีเพื่อการศึกษามากขึ้น
- ประการที่สี่ ประสบการณ์การพัฒนาอีเลิร์นนิ่งในฮ่องกงจะช่วยเป็นกำลังสนับสนุนสำหรับตลาดการศึกษาในจีน
รีด เอส เกตเทอร์ รองประธานฝ่ายการตลาดของบริษัทดิจิตอลธิ้งค์
ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านอีเลิร์นนิ่ง รับปรึกษาและแก้ปัญหาธุรกิจผ่านทางระบบอีเลิร์นนิ่ง
ได้คาดการณ์แนวโน้มของอีเลิร์นนิ่งในปี 2547 ไว้ 5 ประการ ดังนี้
-
ประการที่หนึ่ง คอร์สแวร์การศึกษาแบบอีเลิร์นนิ่งจะมีการให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับสื่อการสอนแบบอีเลิร์นนิ่ง
-
ประการที่สอง ผู้บริโภคจะเลือกจ้างหน่วยงานภายนอกจัดบริการอีเลิร์นนิ่งให้
แทนที่จะดำเนินการด้านอีเลิร์นนิ่งเอง
- ประการที่สาม
ผู้บริโภคจะจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในด้านอีเลิร์นนิ่งมากขึ้น
ซึ่งจะทำให้ผู้ให้บริการเติบโตมากขึ้น
- ประการที่สี่
จะมีการใช้แบบจำลองในด้านอีเลิร์นนิ่งมากขึ้น
- ประการที่ห้า
จะมีการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิ่งตามความต้องการของลูกค้ามากกว่าการเรียนในห้องเรียน
เกตเทอร์ยังกล่าวอีกว่า ในปี 2546 ได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่เน้นไปในด้านผู้เรียนและการให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดความรู้และทักษะแก่ผู้เรียน
สำหรับในปี 2547 นี้ ก็จะยิ่งให้ความสำคัญในสองสิ่งนี้เพิ่มขึ้นไปอีก
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ตลาดโลกจะมุ่งเน้นที่การพัฒนาระบบเดิมให้ดียิ่งขึ้น
รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำนักวิจัยไอีดีซี (IDC) ได้ทำนายตลาดการศึกษาระดับสูงในอเมริการไว้ว่า
ปลายปี 2547 ร้อยละ 90 ของวิทยาลัยทั้งหมดในอเมริกาจะมีหลักสูตรอีเลิร์นนิ่ง
จากที่เคยสำรวจพบเพียงร้อยละ 47 ในปี 2543 นอกจากนี้ สำนักวิจัยไอดีซี่ยังได้คาดการณ์
การเติบโตของอุตสาหกรรมอีเลิร์นนิ่งในส่วนของตลาดอีเลิร์นนิ่งสำหรับบริษัท
ห้างร้านว่า ปี 2547 จะเป็นปีที่บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ทั่วโลกสนับสนุนอีเลิรนนิ่ง
โดยมุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยประมาณการไว้ว่า ตลาดอีเลิร์นนิ่งของโลก เฉพาะการฝึกอบรมพนักงานบริษัท
ห้างร้านต่าง ๆ จะเป็น 23,700 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 924,300
ล้านบาท ในปี 2549 เทียบกับ 6,600 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 257,400
ล้านบาทในปี 2545
ส่วนในญี่ปุ่น มีรายงานว่า ตลาดอีเลิร์นนิ่งสำหรับบริษัท ห้างร้านต่าง
ๆ ในญี่ปุ่นมีมูลค่าสูงกว่าที่ไอดีซีทำนายไว้ถึงประมาณ 7 เท่า
นั่นคือ ประมาณ 7 ล้านล้านบาท
เมื่อได้อ่านรายงานของสำนักข่าว สำนักวิจัย และความเห็นของผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการอีเลิร์นนิ่งแล้ว
ก็พอจะมองเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์ของอีเลิร์นนิ่ง ว่าหลายประเทศทั่วโลกให้ความสนใจ
และต่างตั้งหน้าหน้าตั้งตามุ่งพัฒนาอีเลิร์นนิ่งสำหรับอุตสาหกรรมการศึกษา
เพื่อให้อุตสาหกรรมการศึกษาของประเทศทันสมัย มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีทางการศึกษาที่ทันสมัย จะทำให้พลเมืองในประเทศได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง
มีโอกาสศึกษาถึงระดับสูงได้
นอกจากการศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับสูงแล้ว อีเลิร์นนิ่งสำหรับฝึกอบรมพนักงานบริษัท
ห้างร้านต่าง ๆ ก็มีแนวโน้มที่สดใสเช่นกัน หลายบริษัทนำอีเลิร์นนิ่งไปใช้อบรมพนักงานแล้ว
และอีกหลายบริษัทก็เริ่มนำอีเลิร์นนิ่งมาใช้เช่นกัน
ที่มา
: ศรีศักดิ์ จามรมาน :: หนังสือพิมพ์เทลคอมเจอร์นัล ฉบับวันที่
19 25 มกราคม 2547 หน้า 23 |